กีฬาว่ายน้ำยอดฮิต ความน่าสนใจ ของกีฬาว่ายน้ำ ในประเทศไทย

กีฬาว่ายน้ำยอดฮิต ที่เราขอมาเจาะ เป็นการว่ายในประเทศไทย สาเหตุที่ทำให้ กีฬานี้ฮิตมาก ๆ ก็เพราะสภาพอากาศ อย่างที่ทุกคน รู้กันเป็นอย่างดี เปรียบเทียบได้ว่า ร้อนเหมือนละลาย~ และยิ่งไม่น่าแปลกใจ หากจะเห็นว่าคนไทย ฝีมือแข่งขันระดับโลก เก่งไม่สองรองใคร

และในสนามแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็น โอลิมปิก เกมส์ หรือเอเชียน เกมส์ ก็มักจะมีกีฬานี้อยู่เสมอ เพราะเป็นกีฬาที่ฝึกง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้ อุปกรณ์เสริมใด ๆ ใช้ความสามารถ ของร่างกายและจิตใจ ของผู้แข่งขันเท่านั้น

กีฬาว่ายน้ำยอดฮิต ตามมาดู ประวัติกีฬา ว่า ย น้ำ ไทย เป็นมาอย่างไรบ้าง ?

จุดเริ่มต้นจริง ๆ แล้วมาจากเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งยังไม่มีกติกาแน่ชัด เป็นการแข่งขัน ที่จะว่ายท่าอะไรก็ได้ ขอให้ถึงเส้นชัยก็พอ ด้วยความสนุกนี้ ทำให้เป็นที่สนใจ ของคนอังกฤษมากขึ้น ทำให้กีฬาว่ายน้ำ ถูกบรรจุลงใน การแข่งขันโอลิมปิก ตั้งแต่ปี 2436 ไปเสียอย่างนั้น จนถึงปัจจุบัน นี้นี่เองคุณ!

หลังจากนั้น กีฬาว่ายน้ำยอดฮิต ในปี 2502 ประเทศไทยก็ได้จดทะเบียน สมาคมว่ายน้ำ แห่งประเทศไทย ก่อนที่ 2 ปีต่อมา จะเข้าสู่สหพันธ์ ว่ายน้ำนานาชาติ ซึ่งหลังจากนั้น ในปี 2548 สมาคมแห่งนี้ ก็ได้เพิ่มเติม กีฬาทางน้ำอื่น ๆ ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น ระบำใต้น้ำ , โปโลน้ำ และกระโดดน้ำ และยังได้เปลี่ยนชื่อสมาพันธ์ เป็นสมาคมว่ายน้ำ แห่งประเทศไทยนั่นเอง

และกีฬาว่ายน้ำสากลนี้ ก็ได้พัฒนา รูปแบบการแข่งขัน ให้หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระยะทาง, ท่าว่ายน้ำ และการว่ายผลัดเป็นทีม ทำให้มี นักกีฬาว่ายน้ําไทย โอลิมปิก หลายคนมีโอกาส ได้เข้าแข่งขันด้วย

อย่างคุณไวน์ นวพรรษ หรือคุณจอย เจนจิรา มีการชิงเหรียญทอง มากมายในโอลิมปิก 2012 และครั้งล่าสุด ก็ยิ่งมากขึ้นไปอีก

กติกาว่ายน้ำ ที่เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น จนถึงปัจจุบันนี้

เริ่มต้นจากจุดสตาร์ท กีฬาว่ายน้ำยอดฮิต จะมีกรรมการ เป่านกหวีดยาว เพื่อเป็นสัญญาณบ่งบอก ว่าให้นักกีฬา เตรียมขึ้นแท่นกระโดด หลังจากนั้น กรรมการจะบอกว่า ‘เข้าที่’ หลังจากนั้น จะมีสัญญาณ ไม่ว่าจะเป็นปืน นกหวีด หรือออด เพื่อเป็นการปล่อยตัว ซึ่งขึ้นอยู่กับ ท่าว่ายน้ำด้วย ว่าจะปล่อยตัวบนแท่น หรือปล่อยตัวจากในน้ำ

ทั้งนี้ นักกีฬาที่มี การตอบสนองที่ไวกว่า จะได้เปรียบกว่า ตั้งแต่การออกตัว นอกจากนี้ แต่ละสนามก็จะกำหนด ว่าต้องว่ายน้ำท่าอะไร ? ระยะทางเท่าไหร่ ? เช่น การแข่งขันท่าฟรีสไตล์ 100 เมตร ผู้แข่งขันจะต้อง ว่ายไปและกลับ เพราะสระน้ำยาวเพียง 50 เมตรเท่านั้น

หากลงลึกมาถึง ท่าว่ายน้ำในการแข่งขัน มีท่าอะไรบ้าง ? ความยากง่ายนั้น แตกต่างกันไป

ท่าฟรีสไตล์ – เบสิกที่สุด สำหรับการแข่งขัน เป็นการว่ายแบบใดก็ได้ ที่ต้องแตกต่าง จากท่าว่ายอื่น ๆ ที่เราจะพูดถึง ในลำดับต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ท่าฟรีสไตล์จะเป็นการสาวมือ ซ้ายและขวาสลับกัน พร้อมกับหันหน้า เพื่อหายใจเหนือน้ำ เป็นท่าว่ายน้ำ ที่ใช้แขนขา และหลังเป็นหลัก โดยใช้พลังงานน้อย มากกว่าท่าว่ายอื่น

ท่าผีเสื้อ – เป็นท่าทางคว่ำหน้า มือทั้งสองข้าง จะกางและยก เหนือน้ำพร้อมกัน คล้ายกับปีกผีเสื้อ การว่ายท่านี้ เราจะเห็นครึ่งตัวบน ของผู้ว่ายโผล่ ขึ้นมาเหนือน้ำ

ท่ากบ – เป็นการว่ายน้ำ คว่ำหน้าเช่นกัน ที่มือทั้งสองข้าง วางมือติดกัน และพุ่งไปข้างหน้า ขณะนั้นก็เตะเท้า ไปข้างหลังด้วย เป็นท่าที่ว่ายได้ช้า และค่อนข้างต้อง ใช้ทักษะทีเดียว

ท่ากรรเชียง – เป็นท่าว่ายน้ำ ที่แตกต่างจาก ท่าก่อนหน้าทั้งหมด เพราะเป็นการนอนหงายแทน หันหน้าหาท้องฟ้า และใช้แขนทั้งสองข้าง สาวลงน้ำสลับกัน ทั้งซ้ายและขวา ท่านี้ช่วยในเรื่อง ความยืดหยุ่นของสะโพกได้ด้วย (อาจจะต้องระวังชน เมื่อถึงริมสระน้ำ)

ขนาดของสระว่ายน้ำ ในระดับสากล จะมีความกว้าง 25 เมตร และความยาว 50 เมตร แบ่งลู่แข่งขัน นอกจากนี้ จุดออกตัวจะเป็น กระดานออกตัว

กีฬา ว่ายน้ำ ประโยชน์ มีอะไรบ้าง ? ทั้งร่างกายและจิตใจ

กีฬาว่ายน้ำยอดฮิต ถ้าพูดถึง ผล จากการ ว่า ย น้ำทุกวัน อันดับแรกก็ต้องเป็น ร่างกายนั่นเอง และถ้าถามว่า ว่า ย น้ำ ใช้ กล้าม เนื้อ ส่วน ไหน ? สิ่งที่เราจะได้ ก็คือกล้ามเนื้อกลางตัว ทั้งส่วนบนและล่าง กล้ามเนื้อแขนและขา นอกจากนี้ ก็ยังถนอมเหล่า ข้อต่อหัวไหล่ หรือหัวเข่าด้วย แถมได้ความแข็งแรง ในด้านกล้ามเนื้อหัวใจ

เพราะเวลาอยู่ในน้ำ จะมีแรงหน่วงมาก ทำให้เราต้องออกแรง มากกว่าตอนอยู่บนบก สังเกตได้จาก คนที่ไม่ได้ว่ายบ่อย ๆ ว่ายน้ำไม่นานจะเหนื่อย หัวใจเต้นไว นอกจากนี้ ประโยชน์ของการว่ายน้ำ ด้านจิตใจ ก็ดีขึ้นตามด้วย มีความเครียดน้อยลง มีสมาธิมากขึ้น ที่สำคัญยังใช้เป็น การเอาตัวรอด เวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน หรืออุบัติเหตุทางน้ำ หรือใช้ช่วยชีวิต คนอื่นได้อีกต่างหาก

ใครที่ยังว่ายน้ำไม่เป็น หรือยังมีความรู้สึก กลัวการลงน้ำอยู่ การไปเรียนเสริม ถือว่าเป็นตัวเลือก ที่ดีเลยล่ะ รู้อย่างนี้แล้ว จะรออะไรอยู่ หาสระว่ายน้ำ แล้วไปเล่นน้ำกัน! ใครที่ว่ายน้ำกลางแจ้ง และมีแดดแรง แนะนำอย่าลืม ทาครีมกันแดด เพื่อป้องกันผิวเสีย และโรคที่อาจเกิดขึ้น จากแสงอาทิตย์ด้วยนะ

ติดตาม บทความกีฬาทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น เทนนิส กอล์ฟ วอลเลย์บอล แบดมินตัน หรือฟุตบอล คลิกที่นี่

เรียบเรียงโดย M.Varin