ข่าวกีฬา ทีมยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก ประจำสัปดาห์ที่ 12

ข่าวกีฬา มีผู้เล่นจาก ลิเวอร์พูล ติดเข้ามา 3 รายหลังทำผลงานได้ยอดเยี่ยมคว้าชัยเหนือ อาร์เซน่อล ขณะที่ เชลซี ก็ไม่น้อยหน้ามีชื่อเข้ามา 2 ราย ส่วน แมนฯ ซิตี้ ส่งกองกลางตัวเก่งติดเข้ามา

ผู้รักษาประตู : โชเซ่ ซา (วูล์ฟส์)

ป้องกันช่วยให้ วูล์ฟส์ รอดพ้นการเสียประตูถึง 3 รอบ จนสุดท้ายทีมหมาป่าก็คว้าชัยชนะเหนือ เวสต์แฮม ได้สำเร็จ นอกจากนี้ นี่ยังเป็นการเก็บคลีนชีตได้เป็นเกมแรกในรอบ 6 เกมของ วูล์ฟส์ เลยทีเดียว

กองหลัง : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล)

เป็นอีกนัดที่ลูกเปิดของเขาเล่นงานแนวรับฝั่งตรงข้าม ซึ่งนับตั้งแต่ออกสตาร์ตฤดูกาล 2018/19 อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จัดแอสซิสต์ให้ลีกไปแล้ว 38 ครั้ง มากกว่าผู้เล่นที่ตามมา 4 ลูก

กองหลัง : อันโตนิโอ รือดิเกอร์ (เชลซี)

เป็นกองหลังที่คุกคามฝั่งตรงข้ามได้เสมอยามที่เติมเกมสูงไปเล่นลูกเซตพีซ นอกจากนี้ในเรื่องเกมรับนับตั้งแต่เริ่มฤดูกาลก่อน เชลซี มีสถิติเสียประตูแค่ 0.5 ลูกต่อเกมตอนที่มี รือดิเกอร์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง และหากเปรียบเทียบกับตอนไม่มีนั้น ตัวเลขขึ้นสูงถึง 1.3 ลูกต่อเกม

กองหลัง : ไทโรน มิงส์ (แอสตัน วิลล่า)

แนวรับกัปตันทีม แอสตัน วิลล่า ทำสกอร์แรกบนเวที พรีเมียร์ลีกในรอบ 40 เกม นับตั้งแต่ยิงใส่ เซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2020 และมีส่วนสำคัญทำให้ “สิงห์ผยอง” คว้าชัยประเดิมกุนซือใหม่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด

กองกลาง : ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก (สเปอร์ส)

มิดฟิลด์เดนนิช นับเป็นผู้เล่นในอุดมคติของ อันโตนิโอ คอนเต้ มีทั้งความกระหายในเกม และเล่นดุดัน ประตูจากเกมนี้ ทำให้ ฮอยเบิร์ก ยิงให้ สเปอร์ส ในลีกไปแล้ว 4 ลูกจากการลงเล่น 50 เกม ซึ่งเทียบเท่ากับตอนที่อยู่ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่ลงเล่นไป 109 นัด โดยประตูที่ทำได้กับ “ไก่เดือยทอง” เกิดขึ้นในสนาม ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ทั้งสิ้น

กองกลาง : โรดรี้ (แมนฯ ซิตี้)

นอกจากจะมีประตูสุดสวยมาฝากแฟน ๆ ซิตี้แล้ว ฟอร์มการเล่นโดยรวมของ โรดรี้ ถือว่ายอดเยี่ยมมาก ๆ โดยเฉพาะการคุมเกม และจัดการเกมรุกของคู่ต่อสู้

4 จาก 8 ประตูที่ โรดรี้ ทำได้กับ “เรือใบสีฟ้า” เกิดขึ้นจากลูกยิงนอกกรอบเขตโทษ ซึ่งนับตั้งแต่ฤดูกาล 2019/20 มีแค่ เควิน เดอ บรอยน์(9) และริยาด มาห์เรซ(8) เท่านั้นที่ยิงจากนอกกรอบมากกว่าเขา

กองกลาง : เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (เชลซี)

ไม่ว่าจะเล่นบทบาทไหน เขาก็ทำได้ดีเสมอ แม้กระทั่งเรื่องเกมรุกก็ตาม นัดที่ คิง เพาเวอร์ เราได้เห็นเห็น ก็องเต้ ยิงเฉียบคมด้วยเท้าข้างไม่ถนัดสุดสวย

กองกลาง : ฟาบินโญ่ (ลิเวอร์พูล)

แข้งทีมชาติบราซิลเป็นคนที่ทำให้เกมแดนกลางของ ลิเวอร์พูล ชนะขาด ช่วยตัดเกมได้ดียามคู่แข่งได้โอกาสสวนกลับ

กองกลาง : ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ (วัตฟอร์ด)

ทำหน้าที่ในการเผชิญหน้ากับทีมเก่าได้อย่างยอดเยี่ยม แทบไม่น่าเชื่อว่าชัยชนะเกมนี้จะเป็นการคว้าชัยใน พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกตั้งแต่ช่วงบ็อกซิ่งเดย์ 2017 ของ เคลฟเวอร์ลี่ย์ นับเฉพาะที่เขาได้ลงเล่นครบ 90 นาที

กองหน้า : ซาดิโอ มาเน่ (ลิเวอร์พูล)

ใช้อาวุธที่มีเล่นงานฝั่งขวาของ อาร์เซน่อล จนไม่มีชิ้นดี กระทุ้งสกอร์แรกให้ทีมขึ้นนำ และยังถวายพานให้ โม ซาลาห์ ซัดประตูนำห่าง 3-0

กองหน้า : เอ็มมานูเอล เดนนิส (วัตฟอร์ด)ศูนย์ทีมชาติไนจีเรีย มีสถิติทำประตูหรือแอสซิสต์ได้ทุก ๆ 93 นาทีใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ เป็นรองแค่ ซาลาห์ (ทุก ๆ 60 นาที), รีซ เจมส์ (ทุก ๆ 69 นาที) และ ปอล ป็อกบา (ทุก ๆ 90) เท่านั้น และเกมที่ วิคาเรจ โร้ด ล่าสุด เดนนิส ก็จัดการเหมาแอสซิสต์ และยิงปิดท้าย

ขอบคุณข่าว : https://www.siamsport.co.th/